๑๙ นั้นสำคัญอย่างไร ?
- Details
- Category: บทความประวัติศาสตร์
- Published on Thursday, 25 September 2014 16:56
- Written by Super User
- Hits: 5898
บทความสวรรค์รำลึก
๑๙ นั้นสำคัญอย่างไร ?
เมื่อไม่นานมานี้ผู้เขียนได้ไปที่อาคารอริยสัจสี่ ซึ่งเป็นปกติของชีวิตที่มีความผูกพันกับสถานที่นี้มานาน นับแต่ได้อ่านหนังสือเล่มแรกของสำนักปู่สวรรค์ จากห้องสมุดสมัยเรียนมัธยม ทุกวันนี้ก็ยังรู้สึกขอบพระคุณท่านผู้เมตตาคนนั้น ที่บริจาคหนังสือเล่มนั้นให้ห้องสมุดของโรงเรียน จนกระทั่งผู้เขียนได้มาอ่าน จนเกิดความสนใจ และเฝ้าติดตามศึกษาเรียนรู้หลักธรรมคำสอนของสำนักปู่สวรรค์ แล้วนำไปปรับใช้เพื่อแก้ปัญหาชีวิตให้ผ่านมาด้วยดีได้หลายต่อหลายครั้ง
เผอิญในวันนั้นได้เจอมิตรสหายที่ทำงานอาสาสมัครที่นี่(อาคารอริยสัจสี่)มาด้วยกัน ได้พูดคุยปราศรัยกันตามประสาคนคอเดียวกัน จนมาเข้าประเด็นที่น่าสนใจ เพื่อนถามเปิดประเด็นแบบทีเล่นทีจริงว่า ทุกวันที่ ๑๙ ของเดือน อาคารอริยสัจสี่ของเราจะคลาคล่ำไปด้วยสาธุชน ที่เดินทางกันมาแต่เช้า อยู่จนค่ำสวดมนต์แล้วจึงกลับบ้านกัน เพื่อนก็ถามผู้เขียนแบบชวนคิดว่า ทำไมต้องสิบเก้า “แล้ว ๑๙ มันสำคัญยังไง ?” จากคำถามในวันนั้นผู้เขียนก็เก็บไปคิดเป็นการบ้าน และได้ไปลองค้นคว้าหาคำตอบว่า ๑๙ นั้นสำคัญอย่างไร ดังข้อสรุปที่จะได้เสนอต่อไปครับ
เหตุการณ์บ้านเมืองไม่ดีจุดกำเนิดงานมหัศจรรย์
ย้อนหลังกลับไปเมื่อประมาณ ปี พ.ศ.๒๕๑๘ เป็นต้นมาสถานการณ์ของโลก มีท่าทีที่จะเกิดความรุนแรงมากขึ้นสงครามความขัดแย้งทางด้านความคิดและลัทธิการเมืองทวีความรุนแรง หลายประเทศข้างบ้านเรือนเคียงของเราเปลี่ยนแปลงการเมืองการปกครองไปเป็นทิวแถว ประชาชนในภูมิภาคได้รับความเดือดร้อนจากสงครามทุกหย่อมหญ้า ในประเทศไทยเราเองในช่วงนั้นก็มีความวุ่นวายอยู่ไม่น้อย ในเวลานี้เองสำนักปู่สวรรค์ซึ่งเป็นสำนักธรรมที่มีอุดมการณ์หนักแน่นที่จะช่วยบรรเทาความร้อนของสถานการณ์ต่างๆให้เบาบางลง ท่านบรมครูสำนักปู่สวรรค์จึงมีบัญชาให้เจ้าสำนัก คืออาจารย์สุชาติ โกศลกิติวงศ์ไปบุกเบิกสร้างหุบผาสวรรค์ฯเพื่อใช้เป็นสถานที่ดำเนินงานตามเจตนารมณ์ของพระโพธิสัตว์ที่จะช่วยบรรเทาทุกข์ให้กับโลกมนุษย์
สันติเจดีย์ หุบผาสวรรค์เมืองศาสนา ต.ดอนทราย จ.ราชบุรี
ปี พ.ศ.๒๕๑๗ อาณาจักรหุบผาสวรรค์เมืองศาสนาสร้าง “สันติเจดีย์” บนยอดเขาถ้ำพระ ตรงสถานที่ที่เชื่อกันว่าพระอรหันต์ ๒ องค์ คือพระอุตระมหาเถระ และพระโสณะมหาเถระได้อธิษฐานจิต ประทับรอยบาทไว้เมื่อคราวเดินทางมาเผยแผ่พระพุทธศาสนาในดินแดนสุวรรณภูมิ เมื่อสร้างเสร็จแล้วในปี พ.ศ.๒๕๑๙ ได้กระทำพิธีการบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันต์ธาตุไว้ เป็นงานที่ยิ่งใหญ่มากในยุคนั้น (ค้นคว้าข้อมูลเพิ่มเติมได้จากเอกสารเก่าของสำนักปู่สวรรค์)
สาธุชนจากทั่วสารทิศเดินทางมาร่วมปฏิบัติบูชาพระบรมสารีริกธาตุ ทุกวันที่ ๑๙
วันที่ ๑๙ มกราคม พ.ศ.๒๕๒๐ เป็นครั้งแรกที่คณะกรรมการอาณาจักรหุบผาสวรรค์เมืองศาสนาได้จัดให้มีพิธีสวดมนต์ปฏิบัติบูชาอธิษฐานบูชา พระบรมสารีริกธาตุบนสันติเจดีย์ โดยจัดให้มีการสวดมนต์ภาวนา การนั่งสมาธิ การอธิษฐานจิตเพื่อขอให้ผลร้ายที่จะเกิดขึ้นในประเทศไทยจงกลายเป็นผลดี ขอให้สถาบันชาติ ศาสนา องค์พระมหากษัตริย์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน และขอให้สถานการณ์ของโลกที่ร้อนระอุ จงบรรเทาความรุนแรงลง ซึ่งจากการบอกเล่าและสังเกตสถานการณ์บ้านเมืองของผู้ที่มาร่วมพิธีอย่างต่อเนื่อง ต่างก็เชื่อว่าคำอธิษฐานของพวกเขาประกอบกับแรงอนุโมทนาของเทพเจ้าเบื้องบนมีส่วนช่วยให้ผลร้ายที่จะเกิดขึ้นในชาติเบาบางลงได้หลายครั้ง ทำให้ชาวไทยสามารถประคับประคองชาติบ้านเมืองให้เดินหน้าได้ต่อไป
สร้างมหากุศลเกื้อหนุนชาติและตัวเราเอง
เป็นที่ทราบกันดีในหมู่พุทธศาสนิกชนว่า พระบรมสารีริกธาตุเป็นธาตุศักดิ์สิทธิ์สูงส่งด้วยอิทธิปาฏิหาริย์ มีเทพ พรหม ปกปักรักษา เนื่องด้วยเป็นส่วนของพระสรีระของพระพุทธองค์ ผู้เป็นครูของมนุษย์และเทวดา การบูชาพระบรมสารีริกธาตุก็ประหนึ่งได้บูชาพระพุทธเจ้าด้วย ชาวพุทธถือว่าเป็นบุญกุศลอันสูงส่ง และพระบรมสารีริกธาตุเองก็มีความมหัศจรรย์อยู่ในตัวคือ สามารถแสดงปาฏิหาริย์ปรากฎให้มนุษย์ผู้มั่นคงในการบูชาได้เห็น ดังได้มีการบันทึกไว้ในสถานที่ต่างๆ เช่น บันทึกการปรากฏของฉัพพรรณรังสี ขององค์พระปฐมเจดีย์หลายครั้ง จนเป็นที่ประจักษ์พระเนตรของพระมหากษัตริย์ไทยเราหลายพระองค์
สันติเจดีย์เปล่งฉัพพรรณรังสี เกิดปาฏิหารย์ของพระบรมสารีริกธาตุ
สันติเจดีย์ เองก็เคยแสดงปาฏิหาริย์ของพระบรมสารีริกธาตุให้ผู้ที่ไปปฏิบัติบูชา อธิษฐานบูชา ได้เห็นและถ่ายภาพได้หลายครั้ง นั่นอาจเป็นเพราะเทพยาดาที่รักษาพระบรมสารีริกธาตุ ต้องการให้มนุษย์มีความมั่นคงเชื่อมั่นในการสร้างกุศล และยกระดับจิตของตนให้ก้าวหน้าไปสู่จิตอริยะได้ต่อไป
สันติเจดีย์จำลองเล็กแต่ทรงคุณค่า
เมื่อการสร้างสันติเจดีย์สำเร็จลุล่วง อย่างสมบูรณ์แล้ว คณะกรรมการได้จัดสร้างสันติเจดีย์จำลองขึ้นจำนวนหนึ่ง เพื่อขยายการปฏิบัติบูชาให้กว้างขวางออกไปในที่ต่างๆ ตามความเชื่อที่ว่าพระบรมสารีริกธาตุมีเทพพรหมรักษา สถานที่ใดมีพระบรมสารีริกธาตุไว้บูชาที่นั่นย่อมมีสันติสุขและปลอดภัย ด้วยการอารักขาจากเทพพรหมเทวดา
สันติเจดีย์จำลอง ออกแบบโดย คุณอนันต์ สวัสดิเสาวนีย์ นายช่างออกแบบจากกองหัตถศิลป์ กรมศิลปากร มีรูปลักษณ์เหมือนองค์สันติเจดีย์ที่หุบผาสวรรค์ แต่ย่อส่วนลงมา มีความสูง ๑๐ นิ้ว ทำพิธีบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ครั้งแรกเมื่อ ๑ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๒๐ และได้อัญเชิญไปประดิษฐาน ณ สถานที่ต่างๆของประเทศไทย และต่างประเทศหลายประเทศ เพื่อให้พุทธานุภาพแผ่บารมีให้เกิดความร่มเย็น และสันติสุขโดยทั่วกัน
องค์สมมติท่านบรมครูสำนักปู่สวรรค์ ประดิษฐานที่ชั้นที่ ๔
เวลาเปลี่ยนเจตนารมณ์ไม่เปลี่ยน
ปี พ.ศ.๒๕๓๕ หลังผ่านมรสุมและบททดสอบนานา คณะสานุศิษย์ของสำนักปู่สวรรค์ก่อตั้ง “ชมรมสานุศิษย์สำนักปู่สวรรค์ฯ” ขึ้น ก่อสร้างอาคารอริยสัจสี่เป็นที่ทำการของชมรม ดำเนินหลักคิดตามหลักปรัชญาของท่านบรมครูที่ได้ประทานไว้ คือ “การบำเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์ต่อโลก มีชีวิตอยู่เพื่อทำลายกิเลสของตัวเองให้เบาบางลง” และสิ่งหนึ่งที่เรายังปฏิบัติอย่างเชื่อมั่นตลอดมาคือ การส่งเสริมให้คนสวดมนต์ ปฏิบัติบูชา การอธิษฐานจิตเพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ใช้พลังจิตตานุภาพ เพื่อสันติสุขของส่วนรวม
อาคารอริยสัจสี่ ที่ทำการของชมรมสานุศิษย์สำนักปู่สวรรค์ฯ
ปัจจุบันทุกวันที่ ๑๙ ของเดือน ชมรมสานุศิษย์สำนักปู่สวรรค์ยังจัดให้มีการสวดมนต์อธิษฐานเพื่อสันติสุขของประเทศไทยและในโลกมนุษย์ ยังคงดำรงความเชื่อมั่นเดิมคือการสวดภาวนาต่อหน้าพระบรมสารีริกธาตุและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพื่อที่จะได้รับพุทธานุภาพ ตลอดจนการอนุโมทนาจากเทพเจ้าเบื้องบน ให้คำอธิษฐานเพื่อสันติสุขนี้สัมฤทธิผลได้อย่างมหัศจรรย์
เมื่อท่านได้ไปสวดมนต์ที่ชั้นที่ ๔ ของอาคารอริยสัจสี่ ท่านจะพบกับบรรยากาศแห่งความสงบร่มเย็น ในสถานที่แห่งนี้มีสิ่งมงคลศักดิ์สิทธิ์ ประดิษฐานอยู่หลายสิ่ง ซึ่งสุดแล้วแต่วิจารณญาณและความรู้ความเข้าใจของผู้เข้าไปสัมผัสที่จะเชื่อ คงต้องไปดูด้วยตนเอง ผู้เขียนคงไม่อาจบอกให้ท่านเชื่อได้ ณ ที่นี้ ก็ขอแนะนำคร่าวๆว่า มากราบพระที่นี่ก็จะได้รับความเป็นสิริมงคลกลับไปอย่างแน่นอน
สันติเจดีย์จำลอง ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ อาคารอริยสัจสี่
แล้ว ๑๙ นั้นสำคัญอย่างไร
เล่าความยืดยาวก็เพื่อปูพื้นให้ความรู้เกี่ยวกับที่มาที่ไปนิดหน่อย สรุปได้ว่า เมื่อท่านมาสวดมนต์ปฏิบัติบูชาอธิษฐานบูชา ในวันที่ ๑๙ ของทุกเดือน นั้นท่านได้ให้ความสำคัญในเรื่องต่อไปนี้
๑.เมื่อเรามาร่วม รวมพลังจิตสวดมนต์ และอธิษฐานอย่างแน่วแน่ เพื่อให้เกิดสันติสุขในประเทศไทย และโลกมนุษย์ ก็เป็นที่เชื่อได้ว่าพลังแห่งพุทธานุภาพ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายจะช่วยอนุโมทนา ดลบันดาลให้เกิดความสันติสุขความปลอดภัย ตลอดจนความมั่นคงของชาติบ้านเมืองขึ้นได้
๒.ท่านได้ให้ความสำคัญกับการสร้างบารมีส่วนตัวของท่าน เพราะเราเชื่อว่าเมื่อตั้งใจมั่นแล้วก้าวออกจากบ้านมาเพื่อทำความดีที่นี่ ท่านก็จะสำเร็จแล้วซึ่งการบำเพ็ญบารมีดังต่อไปนี้
อธิษฐานบารมี คือ ท่านได้มาอธิษฐานจิตจากการทำความดีของท่านเพื่อให้คนอื่นมีความสุข รอดพ้นจากอันตรายและความลำบาก ท่านก็ย่อมได้อธิษฐานบารมี
ทานบารมี คือ ยามที่ท่านสวดมนต์ท่านไม่ถือโกรธผู้ใด ชื่อว่าให้อภัยทานชั่วขณะจิตหนึ่ง นอกจากนั้นท่านอาจได้ร่วมบำเพ็ญทานจาคะ ร่วมทอดผ้าป่าเพื่อต่อบุญกุศล
วิริยะบารมี คือ เมื่อท่านตั้งมั่นจะออกมาทำดี เส้นทางเดินทางอาจไกลห่างและมีสิ่งไม่สะดวกสบายท่านก็ได้ตั้งความเพียรมาเพื่อบูชาพระบรมสารีริกธาตุ ได้ชื่อว่าบำเพ็ญวิริยะบารมี
ขันติบารมี คือ โบราณว่าเมื่อทำความดีย่อมมีอุปสรรค การมาสู่สถานที่แห่งนี้มีอุปสรรคมาก ท่านก็ต้องอดทนเพื่อให้ได้ทำความดี ได้ชื่อว่าบำเพ็ญขันติบารมี
เมตตาบารมี คือ เมื่อท่านสวดมนต์อธิษฐานแล้ว ท่านยังได้แผ่เมตตา แผ่กุศลให้กับเจ้ากรรมนายเวร และเพื่อนมนุษย์ ให้เขาเหล่านั้นพ้นจากความทุกข์ ก็ได้ชื่อว่าบำเพ็ญเมตตาบารมี
ดวงพระวิญญาณของหลวงพ่อสมเด็จพระพุฒาจารย์(โต)พรหมรังสี ท่านให้โอวาทแก่สานุศิษย์และประชาชนที่มาฟังธรรมะของท่านที่สำนักปู่สวรรค์ ตอนหนึ่งว่า “สิ่งลี้ลับมหัศจรรย์ สิ่งเหนือความจริง ที่จะพิสูจน์ไม่ได้ด้วยตาเนื้อในโลกมนุษย์ ยังมีอีกมากมาย แต่มนุษย์รู้ไม่ได้ เพราะไม่ถึง ก็พลอยสำคัญผิดว่าคนอื่นก็ไม่ถึงด้วย ฉะนั้น ท่านทั้งหลายจึงไม่ควรด่วนปฏิเสธเรื่องเหล่านี้”
ผู้เขียนเชื่อว่าพลังจิตของมนุษย์เป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่ธรรมชาติสร้างมาคู่กับคนเรามาช้านาน แต่เนื่องด้วยเราไม่ได้ขัดเกลาจิตของเราอย่างเพียงพอจึงนำมาใช้ได้เพียงเล็กน้อย และยังเชื่อต่อไปอีกว่าการสวดมนต์ภาวนารวมพลังจิตของคนเรา จากแสงไฟของจิตเล็กๆหนึ่งดวง เมื่อมารวมกันมากเข้า มากเข้า ย่อมเป็นพลังไฟดวงใหญ่ที่มีพลังบันดาลสิ่งมหัศจรรย์ได้อย่างแน่นอน
ฉะนั้นผู้เขียนจึงขอเรียนเชิญทุกท่านที่มีจิตกุศลมาร่วมสวดมนต์อธิษฐาน ในสถานที่อันเป็นที่ประดิษฐานของพระบรมสารีริกธาตุศักดิ์สิทธิ์ เช่นอาคารอริยสัจสี่นี้ร่วมกัน ทุกวันที่ ๑๙ ของทุกเดือน เรามาอธิษฐานจิตให้ประเทศชาติบ้านเมืองอันเป็นที่อยู่ที่อาศัยของตัวเราและคนที่เรารัก ให้มีความสงบร่มเย็น เศรษฐกิจดี มีความเจริญรุ่งเรือง ปลอดจากภัยอันตรายทั้งปวง เชื่อว่าจะได้รับพระเมตตาจากเบื้องบน และพลังแห่งบุญกุศลที่เราอธิษฐานเพื่อคนอื่นนี้ จะเป็นแรงสะท้อนกลับมาสู่ตัวเรา ให้มีความเจริญรุ่งเรืองยิ่งๆขึ้นไปได้อย่างแน่นอนครับ
ท่านสามารถเข้าร่วมพิธีสวดมนต์ปฏิบัติบูชาอธิษฐานบูชาพระบรมสาริกธาตุ ได้ทุกวันที่ ๑๙ ของเดือน เริ่มสวดมนต์ปฏิบัติบูชา เวลา ๑๘.๐๐ น. มีการแสดงพระธรรมเทศนาของพระสงฆ์ผู้ทรงความรู้ การสวดมนต์ปฏิบัติบูชา อธิษฐานบูชา นั่งสมาธิ สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ ชมรมสานุศิษย์สำนักปู่สวรรค์ฯ อาคารอริยสัจสี่ บางแค กรุงเทพ โทร.๐๒ ๔๒๑๐๔๘๙