สมเด็จโต-เหตุใดองค์สมณ์โคดมจึงบัญญัติวินัยการเข้าพรรษา
- Details
- Category: โอวาทสมเด็จโต_cat
- Published on Saturday, 20 July 2024 13:47
- Written by Super User
- Hits: 165
เหตุใดองค์สมณ์โคดมจึงบัญญัติวินัยการเข้าพรรษา
คำเทศน์ของดวงพระวิญญาณ สมเด็จพระพุฒาจารย์(โต)พรหมรังษี ณ สำนักปู่สวรรค์ เมื่อปี พ.ศ.2514
วันนี้เป็นวันแห่งการสมมติของโลกมนุษย์ว่าการเข้าพรรษา เพราะเหตุใดองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงบัญญัติในพระวินัย เรื่องการเข้าพรรษาเล่า ? เพราะว่าในภาวะการณ์นี้ เมื่อองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้สำเร็จอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ เป็นสัมมาสัมพุทธเจ้าแห่งยุคแล้ว ก็ได้ดำเนินการเผยแผ่ศาสนาแห่งพุทธอาณาจักร ให้ธรรมะของพระองค์รุ่งเรื่องตามแคว้นต่าง ๆ ในชมพูทวีป พาราณสีก็ดี สาวัตถีวัต ราชคฤห์ก็ดี มคธก็ดี กบิลพัสดุ์ กุสินารา ก็ดี เพื่อเผยแผ่ให้มีพุทธสาวก อริยสงฆ์ขึ้นในยุคนั้น
จนถึงป่านฉะนี้พุทธกาลล่วงเลยไปเป็นอดีตภาคสองพันกว่าพรรษาแล้ว วงล้อแห่งกงเกวียนกำเกวียนได้มาบรรจบอีกครั้งหนึ่ง ณ วันนี้
คือในขณะนั้น เมื่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงสร้างอาณาจักรแห่งพุทธะแล้ว: เหล่าสาวกทั้งหลายก็ได้ดำเนินการเผยแผ่ศาสนาตามที่ต่าง ๆ ถึงกาลเแห่งฤดูฝน ฝนตกชุกทั่วทวีป พระสงฆ์ทั้งหลายไม่สามารถที่จะเดินตามคันนา คันทางต่าง ๆ ในยุคนั้น เพื่อที่ไม่ให้เท้าไปเหยียบย่ำทำความเสียหายแก่ชาวบ้านประการหนึ่งประการที่สองก็เป็นการให้เหล่าพระสงฆ์ทั้งหลายได้อยู่เป็นหมวด เป็นหมู่ เป็นที่ เป็นพวก เป็นคณะเพื่อแลกเปลี่ยนทัศนะ ความรู้ซึ่งกันและกันที่ได้ประสบในการออกเผยแผ่ธรรมแห่งสัจจะขององค์พระสมณโคคมวาระกาลนั้นเป็นการดำเนินการเรื่อย ๆ มา เพื่อให้พุทธสาวกมีประสบการณ์ในการที่ว่า เมื่อออกพรรษาแล้วจะดำเนินการเผยแพร่ศาสนาอย่างไร เพื่อให้อาณาจักรแห่งความร่มเย็นนี้ บรรเทาความเร่าร้อนแห่งสัตว์โลกที่ถูกครอบงำด้วยกามตัณหาก็ดีโลภตัณหาก็ดี ในหลักแห่งการยึดตนก็ดี ให้เบาบางลง จึงเป็นการบัญญัติวินัยให้พระสงฆ์ทั้งหลายอยู่เพื่อปรึกษากัน
เมื่อประเพณีอันนั้นค่อยๆเปลี่ยนแปลงมาถึงดินแดนสยาม ก็กลายเป็นว่า เมื่อเข้าพรรษา ลูกชาวบ้านก็มาห่มผ้าเหลืองครั้นเวลาออกพรรษาแล้ว ลูกชาวบ้านก็ถอดผ้าเหลือง นี่คือประเพณีในการดำเนินการเรื่อยมาจนไม่รู้ว่าอะไรเรียกว่าศาสนา อะไรเรียกว่าประเพณี
วันเข้าพรรษาเป็นวันเห่งศุภนิมิตดีสำหรับมนุษย์เพราะฉะนั้นจึงขอให้ท่านทั้งหลายผู้เป็นชาวพุทธและผู้ที่เป็นสมมติสงฆ์พึงระลึกว่า ในขณะนี้เป็นเป็นเวลาที่เราจะเข้าพรรษา เพื่อจะปฏิบัติตนให้ตลอดรอดฝั่งในการชำระจิตให้สิ้นจากอาสวะกิเลส ก็คือว่า เราควรจะทิ้งในด้านกิเลสบางอย่าง ในการเสพสุรายาเมาก็ดี ในการติดภาระทั้งหลายก็ดี ให้สัมฤทธิ์ผลแห่งความเข้าถึงตน
ในยุคแห่งกึ่งพุทธกาลนี้ จะทำอย่างไรเล่าที่จะให้ศาสนาพุทธนี้มีแก่นเหลืออยู่ในโลกบ้าง ภาวะทั้งหลาย สัตวโลกในยุคปัจจุบันนี้ถูกกิเลสแห่งวัตถุครอบงำอย่างลึกซึ้งจนไม่สามารถคลายจากภาวะตัณหาเหล่านั้นได้ เพราะฉะนั้นวันแห่งการเข้าพรรษานี้ สำนักปู่สวรรค์ขอบิณฑบาตเหล่ามนุษย์ทั้งหลาย ที่ว่าท่านเป็นชาวพุทธแล้ว ถ้าท่านเป็นชาวพุทธที่แท้จริง เมื่อมีประเพณีการห่มผ้าเหลือง เราก็ควรมีประเพณีในการละกิเลสบางอย่าง โดยการตั้ง สัจจะของตนว่าในพรรษานี้ไม่ว่าเราห่มด้วยผ้าหรือห่มด้วยจิต แต่การห่มด้วยจิตดีกว่าห่มด้วยผ้า เพราะถ้าห่มแต่ผ้าไม่ห่มจิตผ้าเหลืองจะร้อนยิ่งกว่าไฟนรกอเวจี เพราะฉะนั้นท่านจะเห็นว่า องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าแห่งยุคเรานี้ ทรงมีทั้งหลักและมีทั้งปัจจัยในการวินิจฉัยแผนงาน ในการเผยแผ่หลักธรรมว่า ถึงคราวเข้าพรรษาเพื่อการประชุมธรรม ถึงคราวออกพรรษาเพื่อการเผยแผ่ธรรม ก่อนจะจบคำเทศน์นี้ เราขอให้คติธรรมว่า
สามัคคี จิตถึงธรรม ชีวิตรอด
หลงหน่อไม้ ยึดหิ่งห้อย ชีวิตจม
ขอให้ทุกคนมีสัจจะ ตั้งตนเข้าสู่ทางแห่งการละกิเลสทั้งปวงในกาลแห่งการเข้าพรรษานี้เถิด นี่คือคติธรรมให้ชาวพุทธทั้งหลายรับไปพิจารณา ขอให้ท่านทั้งหลายเริ่มต้นปฏิบัติจิต ปฏิบัติใจ ท่านที่หวังในการปฏิบัติธรรม. ก็ให้สมความปรารถนาในการตั้งปณิธาน และขอให้ทุกคนมีสัจจะ ตั้งตนเข้าสู่ทางแห่งการละกิเลสทั้งปวงในกาลแห่งการเข้าพรรษานี้เถิด
..........................................................