E-book สวรรค์รำลึก

รำลึกศึกษา

ศึกษาประวัติของหุบผาสวรรค์เมืองศาสนาในอดีต

ร้านหนังสือสวรรค์รำลึก

เยี่ยมชมเรา

สื่อมงคลสำนักปู่สวรรค์

สิ่งดีที่ฝากไว้ ดร.คลุ้ม วัชโรบล

ความรู้ทางวิญญาณ จากการศึกษาของ ศาสตราจารย์ ดร.คลุ้ม วัชโรบล

ภาพยนต์รำลึก

ชมภาพยนต์ประวัติศาสตร์และสื่อเพื่อการศึกษาค้นคว้า

สมเด็จโต-ทำอย่างไรจึงจะเอาชนะทุกข์ได้

A-somdejto

ทำอย่างไรจึงจะเอาชนะทุกข์ได้

คำเทศน์ของดวงพระวิญญาณหลวงพ่อสมเด็จพุฒาจารย์(โต)พรหมรังษี

เคยพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ไทยเดลี่ ฉบับประจำวันที่ ๒๗ – ๒๘ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๑๔

สานุศิษย์ : เกล้ากระผมมีเรื่องขอกราบเรียนถามเรื่องทุกข์ คือทุกคนในโลกนี้ล้วนแต่เป็นคนมีทุกข์ด้วยกันทั้งนั้น เกล้ากระผมเองก็เป็นคนหนึ่งที่มีทุกข์ อยากจะขอกราบเรียนถามหลวงพ่อสมเด็จว่า ผู้ที่มีทุกข์และปรารถนาจะปลดเปลื้องทุกข์ บางคนก็หาวิธีปลดเปลื้องทุกข์ที่ถูกทาง แต่บางคนก็ปลดเปลื้องทุกข์ไม่ถูกทาง องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าให้ปลดทุกข์จากใจ เพราะเหตุว่าทุกข์นั้นอยู่ที่ใจ กระผมสงสัยว่าเมื่อรู้ว่าทุกข์มีจริง ทำไมให้ปลดเปลื้องที่ใจ ทำไมไม่ปลดเปลื้องที่ทุกข์นั้น

สมเด็จ : ปัญหานี้เรียกว่า เป็นปัญหาที่เรื้อรังของสังคมมนุษย์ การที่อรรถาธิบายให้เข้าใจถ่องแท้ คงต้องใช้เวลานานมาก วันนี้ไม่มีเวลาอธิบายละเอียด ขออธิบายเพียงคร่าวๆว่า ทุกข์ทั้งหลายที่เกิดขึ้นนั้นเพราะ

         ๑.มนุษย์นั้นไม่รู้จักการครองตนให้อยู่ในสัมมาอาชีวะ

         ๒.มนุษย์นั้นไม่รู้จักวางตนในการเป็นคน

         ๓.ที่พระพุทธเจ้าสอนให้ท่านทำตนให้พ้นทุกข์ทางใจ ดับทางจิตนี้ก็เนื่องจากว่า ทุกข์ทั้งหลายเกิดขึ้นได้เพราะอุปาทานของจิต จิตท่านยึดสมมติบัญญัติมาก ท่านก็ทุกข์มาก สิ่งเหล่านี้เกิดจากอุปาทานของจิต เพราะอะไรเล่า เพราะว่าชีวิตของคนเรานี้ ถ้าท่านอยู่อย่างไม่กลัวสังคมหนึ่ง อยู่อย่างรักธรรมชาติหนึ่ง อยู่อย่างสันโดษหนึ่ง วันหนึ่งๆ ท่านมีปัจจัยในการเลี้ยงชีพเท่าไร

         สมัยอาตมาวันหนึ่งท่านมีเพียง ๓๕ สตางค์ก็อยู่รอดได้ทั้งครอบครัว ท่านกินข้าวเพียงกี่มื้อ กับข้าวมีน้ำพริกผักบุ้งหรืออะไรก็แล้วแต่ ถ้าท่านกินด้วยไม่มีอุปาทานถือว่าขันธ์นี้เกิดขึ้นได้และดำรงอยู่เพราะปฏิกูลบำรุงปฏิกูลให้ขันธ์นี้อยู่เพื่อใช้กรรม เสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม ท่านนุ่งห่มอย่างพอปกปิดกายเพื่อไม่ให้เป็นที่อุจาดตา ไม่จำเป็นที่จะต้องไปตัดเสื้อผ้าชุดหนึ่งเป็นเงินร้อยๆ พันๆ ถ้าท่านตัดตน ไม่กลัวสังคมแล้ว ท่านจะยิ้มรับ

ชะตากรรมของท่านด้วยความภาคภูมิว่า ข้าฯนี้ไม่ต้องติดหนี้ใคร ข้าฯนี้ไม่เกี่ยวข้องกับใคร ข้าฯนี้อยู่ไปวันหนึ่งๆ เพื่อใช้กรรมของกระแสแห่งการพัวพันมาในอดีตภพที่ส่งให้ข้าฯมาเกิดเป็นคน ถ้าท่านดำรงอยู่ในสิ่งเหล่านี้ การเป็นปุถุชนก็ย่อมจะมีทุกข์น้อย

ทั้งนี้และทั้งนั้นพระพุทธองค์รู้วาระกระแสจิต คือรู้ว่าทุกข์ทั้งหลายเกิดขึ้นเพราะความยึดของอุปาทานของจิต ถ้าตัดสมุฏฐานคืออุปาทานนี้เสียได้ ท่านก็ย่อมจะไม่มีทุกข์

สานุศิษย์ : ที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อสมเด็จทรงแนะนำนี้ก็นับว่าเป็นวิธีเดียวกันกับสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงแนะนำและเทศนาโปรดประชาชนไว้ แต่ว่าเกล้ากระผมก็ยังมีความสงสัยอยู่ว่า หากว่าเราจะดับที่ตัวทุกข์เสียทีเดียว ไม่ต้องมาดับที่แดนใจไม่ได้หรือ คือหมายความว่า มีทุกข์เพราะขาดเงินทอง เราก็ให้มีเงินมีทองขึ้นมา ถ้ามีทุกข์เพราะเรื่องคดีก็ให้คดีมันหมดหรือดับสูญไป อย่างนี้เป็นต้น ถ้าเราดับทุกข์ที่ใจก็เสมือนหนึ่งเบี่ยงบ่าย หากว่าเราดับที่ตัวทุกข์เสียได้ จะไม่ดีกว่าหรือขอรับ

สมเด็จ : เรื่องเงิน เรื่องคดีอันเป็นตัวทุกข์นั้น สิ่งเหล่านี้มันเป็นบทบัญญัติของมนุษย์ที่สร้างกันขึ้นมา ทุกสิ่งทุกอย่างมันต้องมีปฐมเหตุของการพัวพัน ถ้าท่านไม่มีการพัวพันในเรื่องการเป็นอยู่ ทุกข์ก็ย่อมไม่มี แต่ที่ต้องการดับทุกข์โดยระบบบันดาลนั้น ท่านจะบันดาลได้อย่างไรเล่า ในเมื่อท่านเป็นปุถุชน “เงิน” เกิดขึ้นมาเพราะสังคม การพัวพันของเยื่อใยสร้างสิ่งสมมติขึ้นมาว่า เป็น “เงิน” เกิดขึ้นมาเพราะความอยากสบายของมนุษย์

ที่มีอารยธรรมทางวัตถุเจริญจึงเกิดเงินขึ้น เงินสร้างให้เกิดคดี เป็นงูเลื้อย เกิดทุกข์ นี่เป็นกรรมพัวพันทางโลก เพราะอะไรเล่า มนุษย์ทุกวันนี้พยายามสร้างสิ่งหลอกลวงมนุษย์ด้วยกันขึ้นมา หลอกกันไปหลอกกันมา เงินที่สมมตินี้เพียงแต่เป็นกระดาษเป็นเหรียญแล้วก็สมมติบัญญัติขึ้นเป็นเงิน ที่ใช้จ่ายในสยามก็เป็นเงินของสยาม ถ้าท่านลองเอาเงินของสยามไปซื้อของในต่างแดนไกลหรือว่าเอาเงินสักบาทหนึ่งไปซื้อขนมที่ยุโรป เข้าย่อมไม่ขายให้ เพราะว่ามันไม่ตรงตามอัตราเงินของเขาที่บัญญัติขึ้นใช้

         เพราะฉะนั้นในเรื่องของเงินเรื่องของคดี เรื่องเหล่านี้เรื่องของโลกมนุษย์ ที่สร้างขึ้นมากดกันเอง มนุษย์สร้างขึ้นมาหลอกกันเอง สภาวะทั้งหลายเกิดจากอุปาทานของจิตทั้งสิ้น ถ้าท่านดับสมุฏฐานของอุปาทานของจิตได้ ก็อยู่แบบอาตมาได้ อาตมาอยู่แบบไม่รู้จักเงิน ไม่ให้เงินมาครอบอาตมา ถ้าท่านต้องการจะให้ทุกข์เบาบางลง ท่านจะต้องอยู่อย่างสันโดษได้หรือไม่ นี่คือจุดสำคัญของการเป็นคน ถ้าท่านอยู่อย่างสันโดษได้ สรรพทุกข์ทั้งหลายก็เกิดกับท่านยาก ถ้าท่านวางตนรู้จักสันโดษ ทุกข์ทุกอย่างก็ดับไปเอง แต่ถ้าท่านไม่รู้จักสันโดษ ท่านจะเอาคดีเงินคดีเมืองมาพัวพันกับทางธรรมแล้ว ทุกข์ย่อมไม่มีที่สิ้นสุด เพราะสิ่งเหล่านั้นเป็นสิ่งที่มนุษย์หมู่มากสร้างขึ้นมา ว่ากันแล้วก็กดกัน

สานุศิษย์ : ทีนี้การดับทุกข์ ที่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเทศนาไว้ก็ดี ที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อสมเด็จเทศนาก็ดีเป็นวิธีดับทุกข์ในแดนใจ ใช่ไหมครับ

สมเด็จ : ใช่ เพราะทุกอย่างมันมาจากใจ

สานุศิษย์ : การที่หลวงพ่อ สอนลูกศิษย์ทั่วๆไปให้ทำสมาธิจิตนี้ ก็หมายความว่าจุดประสงค์ส่วนใหญ่ คือให้ดับทุกข์ในแดนใจ ใช่ไหมครับ

สมเด็จ : เพราะว่าสมาธิจิตนี้เป็นยอดธรรม สมาธิจิตป้องกันความฟุ้งซ่านทั้งหลายได้ สมาธิจิตอาจทำให้ท่านเกิดองค์ฌานได้ สมาธิจิตอาจทำให้ท่านเกิดความปีติได้ สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ดับทุกข์ทั้งสิ้น เพราะอะไรเล่า เพราะว่าทุกข์ทั้งหลายเกิดจากอุปาทาน ทุกข์ทั้งหลายเกิดจากความยึดมั่น ยึดเขายึดเรา ยึดตัว ยึดคณะ ยึดพวก เมื่อเกิดความยึดมั่นในสิ่งเหล่านี้แม้เพียงสิ่งเดียว เมื่อนั้นย่อมเกิดความทุกข์

Contribute!
Books!
Shop!