ประสบการณ์ของหัวหน้ากองพิธีสงฆ์
- Details
- Category: บทความประวัติศาสตร์
- Published on Thursday, 26 September 2024 07:42
- Written by Super User
- Hits: 206
ประสบการณ์ของหัวหน้ากองพิธีสงฆ์
ศาสตราจารย์หลวงสมานวนกิจ
คัดจากหนังสือ วันมหัศจรรย์ รวบรวมเรื่องในการลงพลังจิต พระสมเด็จ ๙ ประเทศ
ผู้เขียนได้รับคำสั่งแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้ากองพิธีสงฆ์ มีหน้าที่สำคัญคือจัดการนิมนต์พระสงฆ์ที่จะเข้าพิธีงานมหาพุทธาภิเษก ในระหว่าง วันที่ 30 มีนาคม ถึงวันที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2517 ที่ในศาลาชินนะปูโตอนุสรณ์ ณ สำนักหุบผาสวรรค์ ตำบลดอนทราย อำเภอปากท่อ จังหวัดราชบุรี พระภิกษุที่นิมนต์มาประกอบพิธีครั้งนี้ประกอบด้วยภิกษุไทยจากทุกจังหวัดในประเทศไทย และพระภิกษุชาวต่างประเทศที่มาศึกษาเล่าเรียนอยู่ในประเทศไทย ตามพระอารามที่สำคัญ ๆ เช่นวัดเบญญจมบพิตร และวัดบวรนิเวศวิหารเป็นต้น
นอกจากนี้ยังมีพระภิกษุที่มาจาก อินเดีย เนปาล ลาว เขมร มาเลเซีย อินโดนีเซียออสเตรเลีย พม่า เป็นต้น รวมทั้งสิ้น 99 องค์ พอถึงวันที่ 30 มี.ค. วันเปิดทำพิธีวันแรกนั้น พระสงฆ์ที่ได้มาในงานนั้นกว่า 400 องค์ ท่านเลื่อมใสศรัทธามาเอง แต่ทางเราก็ยินดีต้อนรับ ได้ถวายจตุปัจจัยและค่าเดินทางทุกองค์ เป็นการเพิ่มกุศลเปรียบดังดอกผลที่เกิดจากต้นผลไม้ของเราเพียงต้นเดียว เกิดมีผลหลายอย่าง แม้ว่าเราจะต้องใช้กำลังกายกำลังใจ และปัจจัยเพิ่มขึ้นมากกว่าที่กะไว้เราก็ยินดี เพราะผลกุศลอย่างนี้เคยได้ยินจากเรื่องนางวิสาขา มหาอุบาสิกาว่าเมื่อชาติก่อนนางทำบุญที่ใดก็มักจะมีศรัทธาเพิ่มเติมปัจจัย ถวายพระที่นางนิมนต์มามากกว่าตั้งใจไว้เดิม เป็นเหตุให้ในปัจจุบันชาติ มีสมบัติมากมาย เมื่อบิดาแบ่งสมบัติให้นาง ในวันแต่งงาน บิดาแบ่งวัวให้พี่ชายของนางไปหลายร้อยตัววัวเหล่านั้นไม่ยอมไปอยู่กับฝูงวัวของพี่ชาย กลับเข้าคอกนางวิสาขาหมด ไล่เท่าไดก็ไม่ไป ก็เพราะพี่ชายของนางไม่ได้เคยทำบุญอะไรไว้ สมบัติจึงไม่เกิด ส่วนนางเองตั้งใจทำแล้วก็ยังแถมถวายของเพิ่มเติมให้กับพระ ผลบุญนั้นจึงจงใจให้วัวไปเข้าคอกของนางหมด
งานนิมนต์พระมาก ๆ เช่นนี้ไม่ใช่เป็นของง่าย ๆ เลย ต้องใช้ความเพียรอย่างแรงกล้า ยิ่งพระเดชพระคุณชั้นสมเด็จด้วยแล้วยิ่งลำบากใหญ่ บางองค์ผู้เขียนต้องเวียนไปนิมนต์ถึง 3-4 ครั้งกว่าจะได้ ถ้าไปถึงองค์ท่าน กว่าจะกราบเรียนนิมนต์ได้ กว่าจะรับนิมนต์ กินเวลาหลายชั่วโมง เมื่อท่านรับนิมนต์ได้แล้ว ก็ต้องถวายใบรับนิมนต์ให้ท่านลงนามไว้เป็นหลักฐาน - แล้วนำใบรับนิมนต์ไปเสนอคณะกรรมการและท่านประธานผู้รับผิดชอบในงานทราบไว้ในชั้นต้น สมเด็จพระราชาคณะรับจะมาร่วมในงาน 5 องค์ แต่ถึงวันงานเข้าจริงๆ มาได้เพียง 2 องค์เท่านั้น คือสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์วัดราชบพิธ และสมเด็จพระธีรญาณมุนีวัดจักรวรรดิราชาวาส อีก 3 สมเด็จไม่ได้มา แจ้งว่าติดนิมนต์ไปในงานอื่นเสีย ทำให้ผู้นิมนต์รู้สึกละอายแก่ใจมาก เพราะได้ออกปากประกาศไปว่า งานนี้สมเด็จทั้ง 5 องค์จะมาร่วมด้วย เพราะท่านลงนามรับนิมนต์ไว้เป็นหลักฐานแล้ว
ก่อนถึงวันงาน ผู้เขียนและครอบครัวรวม 6 คน ได้ไปพักอยู่ที่พักในบริเวณหุบผาสวรรค์ เพราะภรรยาและหลานๆ สมัครเป็นผู้จำหน่ายรูปเทียนและทองที่มีผู้ศรัทธาซื้อไปบูชาองค์สมมติหลวงปู่ทวดและหลวงพ่อสมเด็จ ฯ เราใช้ผ้าเต๊นท์กางแล้วนอนบนเตียงผ้าใบคนละเตียง อันที่จริงการอยู่หลับนอนแบบนี้ ไม่รู้สึกแปลกสำหรับผู้เขียนเลย เพราะในชั่วระยะ 37 ปี ที่รับราชการอยู่ที่กรมป่าไม้ สมัยโน้นได้ใช้ชีวิตเดินตรวจการป่าไม้อยู่เสมอ ต้องนอนกลางดินกินกลางดง บางแห่งจึงจะขี่ม้า ผิดจากสมัยปัจจุบันไปตรวจป่าด้วยรถเก๋งและรถจี๊ป เพราะป่าโปร่งต้นไม้ถูกตัดไปหมดรถเดินได้สะดวก
ในคืนแรกตอนหัวคํ่าฝนตกมาก ลมพัดแรง ฟ้าคะนองเราเห็นใจพระสงฆ์ที่อยู่ในกลดคงถูกฝนเปียกหมด สวนสนุกที่จัดไว้สำหรับแสดงมหรสพต่างๆ จึงมีคนไปชมน้อย
ตอนเย็นวันที่สองของงาน ขณะที่สวนสนุกโฆษณาเชิญชวนคนมาเที่ยวงาน ได้มีพายุพัดแรง ฝุ่นตลบเกิดความอลเวงวุ่นวายไปทั่วบริเวณงาน สักครู่หนึ่งมีเสียงประกาศออกมาทางสวนสนุกว่า. “มีผู้นำสุราและเครื่องดองของเมา เข้ามาขายในงานนี้ ซึงผิดกติกาที่ได้ตกลงกันไว้ ให้งดขายและขนออกไปเสีย มิฉะนั้นฝนจะตกอีก ร้านขายของและการแสดงจะเสียหาย” เมื่อเสียงประกาศเงียบไปครู่ใหญ่อากาศเริ่มแจ่มใส พายุสงบลง ฝนที่ตั้งเค้าจะตกก็ไม่ตก เข้าใจว่าผู้ที่นำสุราและของมึนเมาเข้าไปขายใด้งดขายและขนย้ายของเหล่านั้นออกไปนอกบริเวณงานแล้ว คืนนั้นฝนไม่ตกและในคืนต่อๆ ไปก็ไม่มีฝนตก เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้แสดงให้เห็นชัดว่า สิ่งศักดิ์สิทธิ์มีอยู่ห้ามฝนไม่ให้ตกได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งใครๆ จำนวนพันได้ยินอยู่กับหู รู้อยู่กับตาในวันประกอบพิธีมหาพุทธาภิเษกในครั้งนี้
สำหรับเรื่องปรากฏการณ์ พระเกจิอาจารย์บางรูปท่านเล่าให้ฟังว่าที่เขาถ้ำพระหรือที่หุบผาสวรรค์นี้เป็นเมืองเทพ มีเทวดาหลายหมู่นับหมื่นนับแสน รักษาคุ้มครอง เพราะเทวดาเหล่านั้นมาปรากฎและสนทนากับท่าน เวลาท่านนั่งปรกอยู่ในตอนกลางคืน มีพลังแรงมาก ท่านว่าเวลามาทำให้ท่านรู้สึกหนักไปทั้งตัว แทนที่ท่านจะลงพลังให้กับพระพุทธรูปและพระสมเด็จ ๙ ประเทศ เทวดากลับเอาพลังมาให้แก่ตัวท่าน จะจริงแค่ไหนอยู่ที่องค์ท่านที่เล่าให้ฟัง
ประสบการณ์อีกอย่างหนึ่งคือ พวกเราที่ไปช่วยงานครั้งนี้ตลอด 9 วัน ไม่มีใครเจ็บป่วยหรือบ่นว่าเหนื่อยยากอะไรเลย มีแต่พูดว่าไม่เหนื่อยและยินดีทำกันทุกคน สำหรับผู้เขียนแม้ว่าอยู่ในวัยชราก็ยังสู้ไหว
สิ่งที่น่าเสียดายอยู่บ้างก็คือชาวบ้านแถบนั้นไปชมงานน้อยกว่าที่คาด เป็นเพราะฝ่ายมาร เป็นผู้มีใจบาปไปเที่ยวเล่าลือว่า มีเหตุร้ายต่างๆ เกิดขึ้นในงานของเรา ใครไม่อยากลำบากและเกรงภัยก็อย่าเข้าไปในงานครั้งนี้ ยังโฆษณาอีกว่าเเม้ท่านรองนายกรัฐมนตรี สุกิจ นิมมานเหมินทร์และเอกอัครราชทูต หรือผู้แทน ๘ ประเทศ ที่ได้มาร่วมในงานครั้งนี้ ก็ไม่ได้มาจริงเป็นการหลอกลวงกัน ราษฎรผู้เชื่อง่ายได้ยินได้ฟังจึงไม่กล้ามาเที่ยวในงานนี้
งานมหาพุทธาภิเษกของเราครั้งนี้ ก็สำเร็จลงด้วยความเรียบร้อย ยินดีปรีดากันทุกฝ่าย ไม่มีความเสียหายในทางใดเกินขึ้นตลอด 9 วัน งานนี้เราได้ถ่ายภาพและภาพยนตร์ไว้เป็นหลักฐานขอกุศลผลบุญ ท่าน ได้มาร่วมแรง ได้ช่วยเหลือทางกาย ทางใจ ทางทุนทรัพย์ จงนำผลกุศลให้เกิดผลทวีคูณอย่างเช่น มหาอุบาสิกาวิสาขา ในหนหลังทุกท่านเทอญ