สมเด็จโต-สิ่งเป็นมงคลแห่งชีวิต
- Details
- Category: โอวาทสมเด็จโต_cat
- Published on Wednesday, 02 July 2014 08:50
- Written by Super User
- Hits: 3705
สิ่งเป็นมงคลแห่งชีวิต
(วันที่ ๘ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๑๔)
สมเด็จ : ใครมีอะไรบ้าง?
อาจารย์บุญชื่น ทองอยู่ : ลูกขอกราบเรียนถามเกี่ยวกับสิริมงคลที่คนโบราณว่าไว้ในหนังสือของโลกนิติที่พูดถึงเรื่องเรือน ๔ ห้อง ห้ามปลูก แมว ๕ หมา ๖ ห้ามเลี้ยง แล้วพวกช่างก่อสร้างก็เล่าสืบกันมาว่า การเจาะประตูบ้านเขาให้แบ่งเป็น ๘ ช่อง ประตูควรจะอยู่ช่องที่ ๒ ถ้าเผื่อประตูบ้านมาอยู่ช่องที่ ๑ จะเกิดอัปมงคลกับตัวเจ้าของบ้าน ลูกจึงอยากขอทราบเหตุผลเจ้าค่ะ
สมเด็จ : ในเรื่องของมงคลนี้ ในภาวการณ์ต้องเข้าใจว่า หลักแห่งการเป็นมงคลนั้นก็คือว่า บุคคลที่จะอยู่ในการดำรงตนเป็นมนุษย์นั้น ต้องรู้จักในภาวการณ์แห่งการวางตน รู้จักวิถีการแห่งการคบมิตร วิถีการแห่งการเจรจาหนึ่ง วิถีการแห่งการนอนหนึ่ง
ทีนี้ ในพลังทั้งหลาย เรื่องของมงคลนี้ เป็นสิ่งในหลักของความอาถรรพณ์ เช่นว่า ถ้าท่านอยากจะได้มงคลในเรื่องของการว่าผิวพรรณดีแล้วไซร้ ท่านจะต้องวางตน คือ
หนึ่ง สภาวะจิตนั้น จะต้องไม่มีความอิจฉาในเพื่อนมนุษย์
สอง ในเรื่องขันอาบน้ำ ท่านเชื่อหรือไม่ ถ้าท่านเอาขันใบหนึ่งที่สำหรับอาบน้ำและล้างหน้า ใส่น้ำและตั้งบูชาไว้ที่หน้าหิ้งพระ และก่อนที่จะล้างหน้า ให้ท่านระลึกถึง พุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ หรือใช้ นะโมพุทธายะ ทุกครั้งไป หน้าของท่านจะผ่องใส เพราะอำนาจบารมีแห่งพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ จะแทรกซึมเข้าไปในนกายของท่าน
ทีนี้ มาถึงเรื่องของคำว่าปลูกเรือนนั้น เขาจะต้องดูลักษณะแห่งทิศทิศเหนือเป็นทิศพระโพธิสัตว์ คนเกิดวันอะไรควรจะหันหน้าทิศอะไรแต่ปกติแล้วไซร้ เขาต้องการหันหน้าสู่ทิศตะวันออก
ทีนี้ ในสภาพการณ์แห่งการขึ้นสู่ทิศตะวันออกนี้ดีอย่างไรเล่า ดีในด้านเขาเรียกว่า เมื่อพระอาทิตย์ขึ้นจากขอบฟ้าแล้วไซร้ พระอาทิตย์นั้นจะส่องและเข้าสู่ในบ้านเรือน เป็นการทำให้เกิดความสว่างไสว มนุษย์เรานี้กลัวที่สุดก็คือความมืด เกลียดที่สุดก็คือความมืด เพราะฉะนั้น จึงวางหลักแห่งการที่ว่าหันหน้าสู่ทิศตะวันออก เมื่อพระอาทิตย์ขึ้นแล้วไซร้จะช่วยให้เราคลายความมืด
ถ้าอธิบายสู่ในหลักแห่งสุขวิทยาแล้ว ก็คือว่า เมื่อหันหน้าสู่ทิศตะวันออกนี้ พระอาทิตย์ส่องแสงจะได้ฆ่าเชื้อโรคภายในได้ ในด้านที่มีอยู่ให้สลายไป นี่คือหลักแห่งสุขศึกษา
ส่วนในเรื่องของประตูบ้านก็ดี ในการแบ่งห้องก็ดี ให้อยู่ในสภาพการณ์แห่งการปลอดโปร่งของทิศทางลมเป็นหลัก
ในเรื่องของแมวหมานั้น เขาเรียกว่ามนุษย์กลัวในสิ่งที่ไม่สมควรกลัว สัตว์ทั้งหลายเกิดมาในโลกมนุษย์นี้ ล้วนแต่มีกรรมของตนเป็นที่เสวย ในวิถีแห่งการแห่งกรรมนั้นๆ เพราะฉะนั้นในเรื่องเลี้ยงอะไรก็แล้วแต่ ถ้าใครไม่กล้าเลี้ยง เอาให้สมเด็จโตเลี้ยง เลี้ยงได้ทั้งนั้น เพราะว่าภาวะสัตว์เหล่านี้ เกิดขึ้นเพราะมีกรรมของตน ไม่ว่าสัตว์เล็กสัตว์น้อย เป็นจุดแห่งการนำให้เกิดเป็นสภาพที่มาใช้กรรมในโลกมนุษย์ไม่ว่าจะเป็นสัตว์เดียรัจฉานใดๆ ทั้งสิ้น เพราะฉะนั้น ในเรื่องนี้ก็เรียกว่า ถือจนเลยเถิด